“5 ฤดูกาลเต็ม”!!! ที่ผีแดงจะต้องจบซีซั่นแบบมือเปล่า???

การตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคืน มีความหมายว่าพวกเขากำลังเจอกับระยะเวลาที่ร้างราจากการคว้าถ้วยรางวัลที่ยาวนานที่สุดในรอบ 40 ปี

โดยถ้วยแชมป์ใบปัจจุบันของพวกเขาคือ ยูโรปาลีก ในปี 2017 ภายใต้การคุมทีมของ โจเซ มูรินโญ – และหนำซ้ำ อัตราชนะ 45% ในทุกการแข่งขันชิงชัยฤดูกาลนี้ยังนับว่าต่ำที่สุดนับจากฤดูกาล 1989-90 อีกด้วย

ย้อนกลับไปเมื่อในเวลาที่แม้กระทั่ง คริสเตียโน โรนัลโด้ ยังไม่เกิด แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าถ้วย เอฟเอ คัพ มาครอบครองได้ในปี 1977 และจะต้องรอคอยอีกจนถึงปี 1983 กว่าจะได้ถ้วยรางวัลอีกใบ หมายคือ เอฟเอ คัพ อีกนั่นแหละ

พวกเขาออกสตาร์ทฤดูกาลนี้อย่างปังปุริเย่ด้วยการเอาชนะ ลีดส์ แบบถล่มทลายพร้อมกับได้ตัว ราฟาเอล วาราน, โรนัลโด้ และ เจดอน ซานโช มาร่วมทีม จนกระทั่งทำเอาแฟนคลับคู่แข่งขันมีตาร้อนผะผ่าวบ้าง

ทว่าตัดภาพกลับมาปัจจุบันนี้ อาจไม่มีใครคาดหมายจะได้เห็น ยูไนเต็ด ไม่เข้ารอบบอลถ้วยในประเทศทั้งสองรายการด้วยมือของ เวสต์แฮม และ มิดเดิลสโบรห์ แถมยังพ่ายแพ้ต่ออริตลอดกาลทั้งสองอย่างเละเทะอีกด้วย นี่ยังไม่นับการถูกให้ออกจากตำแหน่งของ โซลชา อีกนะ

กระทั่งความหวังสุดท้ายอย่าง แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ถูกพังทลายลงมาด้วยมือของ ดิเอโก ซิมิโอเน ในบ้านของตัวเอง เวลาที่จังหวะสำหรับเพื่อการจะได้กลับมาเล่นในรายการนี้ในปีถัดไปก็ยังเลือนรางเนื่องจากว่าเหตุการณ์ที่ยังด้อยกว่า อาร์เซนอล อยู่ใน พรีเมียร์ลีก

นอกเหนือจากนี้ถ้าเกิดพวกเขาพลาดแชมป์ลีกในปีถัดไปก็จะเท่ากับหนึ่งทศวรรษพอดิบพอดีหลังการวางมือของ เซอร์ อเล็กซ์ ที่จากไปพร้อมถ้วยแชมป์ลีกใบสุดท้าย

และถ้าเกิดนำมาเปรียบเทียบในระยะเวลาเดียวกันจากในเวลาที่สมัยก่อนที่ปรึกษาชาว โปรตุเกส พาทีมคว้าแชมป์ใบล่าสุดมาได้นั้น ทุกทีมในบิ๊กโฟร์และ แมนฯ ซิตี้ ต่างก็บรรลุเป้าหมายกันหมด

ไม่ว่าจะเป็น หงส์แดง ที่ได้มาแทบครบทุกแชมป์ที่ทำได้ หรือ ซิตี้ กับแชมป์ลีกสามสมัย, เอฟเอ คัพและ คาราบาว คัพ อีกสี่ใบ เชลซี กับถ้วยบอล ยุโรป ทั้งสองรายการ สโมสรโลก เอฟเอ คัพ และ ซูเปอร์คัพ หรือกระทั่ง อาร์เซนอล ที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ หลังหมดยุค เวงเกอร์ ก็ยังมิวายเอา เอฟเอ คัพ มาเชยชมได้เลย